อดีตของญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ. 1500 - ค.ศ. 1700 นินจาเงาอัคคีมีชื่อเสียงโด่งดังและมีความรุ่งเรื่องถึงขีดสุด มีชื่อเสียงในเรื่องของความสามารถในการสร้างอาวุธอสูรขึ้นมาหลายอย่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ อาวุธอสูรเป็นอาวุธที่มีความแปลกพิสดารในตัวเอง เกิดจากการใช้พลังหยินและหยาง รวมทั้งศาสตร์ทางด้านฮวงจุ้ย รกกะและคุเร เป็นพี่น้องต่างมารดาของโอกะ หัวหน้านินจาเงาอัคคีรุ่นที่ 6 ที่เกิดในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เรกกะเกิดจากคาเงโฮชิ ภรรยาคนที่หนึ่ง คุเรเกิดจากเรนนะ ภรรยาคนที่สอง ตามกฎของเงาอัคคี ผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้านินจางาอัคคีมีเพียงคนเดียว คุเรถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวกาลกิณีแห่งหมู่บ้านและถูกกำจัด
ต่อมาหมู่บ้านนินจาเงาอัคคีถูกกองทัพของโอดะ โนบุนากะโจมตี เพื่อทำลายอาวุธอสูร โอกะตายในสนามรบ คาเงโฮชิต้องการจะช่วยชีวิตเรกกะให้มีชีวิตรอดต่อไป ใช้วิชาต้องห้ามส่งเรกกะข้ามมิติเวลา โดยมีคุเรติดตามไปด้วยความเคียดแค้น จากการที่คาเงโฮชิใช้วิชาต้องห้าม ส่งผลให้ร่างกายกลายเป็นอมตะ ไม่แก่ไม่ตาย และทนทุกข์ทรมานมาตลอดระยะเวลา 400 ปี เรกกะข้ามมิติเวลามาพร้อมกับคุเร และเติบโตและใช้ชีวิตแบบเด็กหนุ่มธรรมดา อาศัยอยู่กับบิดาที่มีอาชีพเป็นช่างทำดอกไม้ไฟและพลุ
เรกกะเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ชื่นชอบนินจาในสมัยสงครามเป็นอย่างมาก มี คิริซาวะ ฟูโกะ เพื่อนเล่นในสมัยเด็ก ๆ และเรียนหนังสือด้วยกันเป็นเพื่อนสนิท ฟูโกะพยายามโจมตีและเอาชนะเรกกะทุกครั้งที่มีโอกาสแต่ก็ไม่สำเร็จ เรกกะพบกับซาโคชิตะ ยานางิ สาวน้อยผู้มีจิตใจดีงามและมีพลังพิเศษในการรักษาบาดแผล เรกกะประทับใจในตัวยานางิจึงขอสาบานตนเป็นนินจาคุ้มครองยานางิพร้อมกับเรียกยานางิว่าองค์หญิง ข่าวการเป็นนินจาให้ยานางิของเรกกะสร้างความไม่พอใจให้กับ คิริซาวะ ฟูโกะ และ อิชิจิมะ โดมอน จึงพยายามท้าเรกกะต่อสู้ แต่ไม่สามารถเอาชนะเรกกะได้ คาเงโฮชิ หญิงลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือฟูโกะพร้อมกับมอบอาวุธอสูรเทพวายุ อาวุธอสูรที่สามารถบังคับสายลมและสร้างพายุได้แก่ฟูโกะ
ฟูโกะถูกเทพวายุควบคุม เรกกะและโดมอนติดตามมาช่วยเหลือฟูโกะจนได้สติกลับคืนมา พร้อมกับการปรากฏตัวของคาเงโฮชิ นินจาเงาอัคคีและจุดประสงค์ของการปรากฏตัว มิคางามิ โทคิยะ เป็นนักเรียนทุนที่มาเรียนตามคำสั่งของคาเงโฮชิเพื่อจับตาดูเรกกะ มีอาวุธอสูรเอ็นซูยในครอบครอง ทาเทซาโค อาจารย์ของเรกกะ เป็นผู้รอบรู้ในเรื่องของนินจาโดยเฉพาะนินจาเงาอัคคี ถูกคุเรจับตัวไปตามคำสั่งของโมริโครัน ผู้มีอำนาจในโลกมืด ยานางิที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกจับตัวไปด้วย เรกกะ ฟูโกะและโดมอนขอร้องคาเงโฮชิให้บอกข้อมูลที่ซ่อนตัวของคุเรและบุกไปเพื่อช่วยยานางิและทาเทซาโค คฤหาสน์ของคุเร เรกะและเพื่อน ๆ ต่อสู้กับเรรัน เซกิโอและโคงาเนอิ คาโอรุ โดยมีมิคางามิที่ติดตามมาช่วยเหลือ เมื่อเผชิญหน้ากับคุเร ที่สามารถควบคุมเปลวเพลิงภายในตัวได้ เรกกะไม่สามารถเอาชนะคุเรได้ จึงปลดผนึกที่แขนขวาทำให้แปดมังกรเพลิงในตัวเป็นอิสระ เรกกะขอยืมพลังจากแปดมังกรเพื่อต่อสู้กับคุเรและคุเรไนซึ่งเป็นเปลวเพลิงของคุเร และช่วยยานางิและทาเทซาโคได้สำเร็จ หลังจากการต่อสู้กับคุเร คาเงโฮชิเปิดเผยความจริงที่ตนเองเป็นแม่ของเรกกะ และคุเรเป็นพี่ชายต่างมารดาซึ่งทายาทของนินจาเงาอัคคีทั้งคู่ เรกกะปลดผนึกแปดมังกรอีกครั้งและสามารถควบคุมมังกรเพลิงได้สองตัวคือไซฮะและนาดาเระ คุเรและโมริ โครัน จัดงานประลองแห่งโลกมืดขึ้น คุเรท้าให้เรกกะและเพื่อน ๆ เข้าร่วมการประลองโดยมีเงื่อนไขที่ผู้แพ้จต้องมอบอาวุธและทรัพย์สินที่มีให้แก่ผู้ชนะ ซึ่งทรัพย์สินที่คุเรต้องการคือหญิงสาวผู้มีพลังรักษา ซาโคชิตะ ยานางิ
เรกกะและเพื่อน ๆ เข้าแข่งขันงานประลองแห่งโลกมืด และได้โคงาเนอิ คาโอรุ มาร่วมทีม โดยแข่งในรอบแรกกับทีมคู และในรอบสองกับทีมอุรุฮะ (มายา) เรกกะและเพื่อน ๆ สามารถเอาชนะได้ทั้งสองรอบ และได้มังกรเพลิงโฮมุระและเซ็ตสึนะมาครอบครอง ก่อนแข่งขันรอบสามกับทีมอุรุฮะ (คีตะ) และทีมอุรุฮะ (อสูร) ซึ่งได้มังกรเพลิงมาโดกะและรุย เรกกะและเพื่อน ๆ สามารถผ่านการแข่งขันในรอบสายต่าง ๆ จนถึงรอบขุนพล พบกับทีมอุรุฮะ (คุเรไน) ที่มีคุเรเป็นหัวหน้าทีม เรกกะถูกเฒ่าปริศนาปลดผนึกมังกรและพาไปยังห้วงความคิดภายในตัวเรกกะ เพื่อแย่งชิงแปดมังกรกลับคืน ในรอบขุนพล เรกกะได้มังกรเพลิงโคคู มังกรเพลิงที่มีพลังมากที่สุดในแปดมังกรมาครอบครอง และต่อสู้กับคุเรอย่างสูสีจนเอาชนะคุเรได้สำเร็จ หลังการต่อสู้ คุเรถูกโมริ โครันและโมคุเร็น อดีตอุรุฮะ (มายา) หักหลังและยิงตกทะเล คุเรได้เนออน หนึ่งในทศเทพของคุเรช่วยชีวิตจนปลอดภัย และหวนกลับมาล้างแค้นโมริ โครันอีกครั้ง
ต่อมาหมู่บ้านนินจาเงาอัคคีถูกกองทัพของโอดะ โนบุนากะโจมตี เพื่อทำลายอาวุธอสูร โอกะตายในสนามรบ คาเงโฮชิต้องการจะช่วยชีวิตเรกกะให้มีชีวิตรอดต่อไป ใช้วิชาต้องห้ามส่งเรกกะข้ามมิติเวลา โดยมีคุเรติดตามไปด้วยความเคียดแค้น จากการที่คาเงโฮชิใช้วิชาต้องห้าม ส่งผลให้ร่างกายกลายเป็นอมตะ ไม่แก่ไม่ตาย และทนทุกข์ทรมานมาตลอดระยะเวลา 400 ปี เรกกะข้ามมิติเวลามาพร้อมกับคุเร และเติบโตและใช้ชีวิตแบบเด็กหนุ่มธรรมดา อาศัยอยู่กับบิดาที่มีอาชีพเป็นช่างทำดอกไม้ไฟและพลุ
เรกกะเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ชื่นชอบนินจาในสมัยสงครามเป็นอย่างมาก มี คิริซาวะ ฟูโกะ เพื่อนเล่นในสมัยเด็ก ๆ และเรียนหนังสือด้วยกันเป็นเพื่อนสนิท ฟูโกะพยายามโจมตีและเอาชนะเรกกะทุกครั้งที่มีโอกาสแต่ก็ไม่สำเร็จ เรกกะพบกับซาโคชิตะ ยานางิ สาวน้อยผู้มีจิตใจดีงามและมีพลังพิเศษในการรักษาบาดแผล เรกกะประทับใจในตัวยานางิจึงขอสาบานตนเป็นนินจาคุ้มครองยานางิพร้อมกับเรียกยานางิว่าองค์หญิง ข่าวการเป็นนินจาให้ยานางิของเรกกะสร้างความไม่พอใจให้กับ คิริซาวะ ฟูโกะ และ อิชิจิมะ โดมอน จึงพยายามท้าเรกกะต่อสู้ แต่ไม่สามารถเอาชนะเรกกะได้ คาเงโฮชิ หญิงลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือฟูโกะพร้อมกับมอบอาวุธอสูรเทพวายุ อาวุธอสูรที่สามารถบังคับสายลมและสร้างพายุได้แก่ฟูโกะ
ฟูโกะถูกเทพวายุควบคุม เรกกะและโดมอนติดตามมาช่วยเหลือฟูโกะจนได้สติกลับคืนมา พร้อมกับการปรากฏตัวของคาเงโฮชิ นินจาเงาอัคคีและจุดประสงค์ของการปรากฏตัว มิคางามิ โทคิยะ เป็นนักเรียนทุนที่มาเรียนตามคำสั่งของคาเงโฮชิเพื่อจับตาดูเรกกะ มีอาวุธอสูรเอ็นซูยในครอบครอง ทาเทซาโค อาจารย์ของเรกกะ เป็นผู้รอบรู้ในเรื่องของนินจาโดยเฉพาะนินจาเงาอัคคี ถูกคุเรจับตัวไปตามคำสั่งของโมริโครัน ผู้มีอำนาจในโลกมืด ยานางิที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกจับตัวไปด้วย เรกกะ ฟูโกะและโดมอนขอร้องคาเงโฮชิให้บอกข้อมูลที่ซ่อนตัวของคุเรและบุกไปเพื่อช่วยยานางิและทาเทซาโค คฤหาสน์ของคุเร เรกะและเพื่อน ๆ ต่อสู้กับเรรัน เซกิโอและโคงาเนอิ คาโอรุ โดยมีมิคางามิที่ติดตามมาช่วยเหลือ เมื่อเผชิญหน้ากับคุเร ที่สามารถควบคุมเปลวเพลิงภายในตัวได้ เรกกะไม่สามารถเอาชนะคุเรได้ จึงปลดผนึกที่แขนขวาทำให้แปดมังกรเพลิงในตัวเป็นอิสระ เรกกะขอยืมพลังจากแปดมังกรเพื่อต่อสู้กับคุเรและคุเรไนซึ่งเป็นเปลวเพลิงของคุเร และช่วยยานางิและทาเทซาโคได้สำเร็จ หลังจากการต่อสู้กับคุเร คาเงโฮชิเปิดเผยความจริงที่ตนเองเป็นแม่ของเรกกะ และคุเรเป็นพี่ชายต่างมารดาซึ่งทายาทของนินจาเงาอัคคีทั้งคู่ เรกกะปลดผนึกแปดมังกรอีกครั้งและสามารถควบคุมมังกรเพลิงได้สองตัวคือไซฮะและนาดาเระ คุเรและโมริ โครัน จัดงานประลองแห่งโลกมืดขึ้น คุเรท้าให้เรกกะและเพื่อน ๆ เข้าร่วมการประลองโดยมีเงื่อนไขที่ผู้แพ้จต้องมอบอาวุธและทรัพย์สินที่มีให้แก่ผู้ชนะ ซึ่งทรัพย์สินที่คุเรต้องการคือหญิงสาวผู้มีพลังรักษา ซาโคชิตะ ยานางิ
เรกกะและเพื่อน ๆ เข้าแข่งขันงานประลองแห่งโลกมืด และได้โคงาเนอิ คาโอรุ มาร่วมทีม โดยแข่งในรอบแรกกับทีมคู และในรอบสองกับทีมอุรุฮะ (มายา) เรกกะและเพื่อน ๆ สามารถเอาชนะได้ทั้งสองรอบ และได้มังกรเพลิงโฮมุระและเซ็ตสึนะมาครอบครอง ก่อนแข่งขันรอบสามกับทีมอุรุฮะ (คีตะ) และทีมอุรุฮะ (อสูร) ซึ่งได้มังกรเพลิงมาโดกะและรุย เรกกะและเพื่อน ๆ สามารถผ่านการแข่งขันในรอบสายต่าง ๆ จนถึงรอบขุนพล พบกับทีมอุรุฮะ (คุเรไน) ที่มีคุเรเป็นหัวหน้าทีม เรกกะถูกเฒ่าปริศนาปลดผนึกมังกรและพาไปยังห้วงความคิดภายในตัวเรกกะ เพื่อแย่งชิงแปดมังกรกลับคืน ในรอบขุนพล เรกกะได้มังกรเพลิงโคคู มังกรเพลิงที่มีพลังมากที่สุดในแปดมังกรมาครอบครอง และต่อสู้กับคุเรอย่างสูสีจนเอาชนะคุเรได้สำเร็จ หลังการต่อสู้ คุเรถูกโมริ โครันและโมคุเร็น อดีตอุรุฮะ (มายา) หักหลังและยิงตกทะเล คุเรได้เนออน หนึ่งในทศเทพของคุเรช่วยชีวิตจนปลอดภัย และหวนกลับมาล้างแค้นโมริ โครันอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น